- การวิจัย
เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากในระบบเศรษฐกิจของฐานความรู้ แต่ว่าเราเองมีผลงานการวิจัยน้อย และคุณภาพที่ดีก็น้อย การจดสิทธิบัตรก็น้อยกว่าบริษัทหลายๆ บริษัทในสหรัฐอเมริกา สาเหตุที่ทำให้งบประมาณวิจัยลดลง เกิดจากผู้คนทั่วไปไม่เห็นว่างานวิจัยเกิดประโยชน์ ไม่ควรไว้บนหิ้งเฉยๆ แต่หากวิจัยเสร็จแล้ว ก่อเกิดประโยชน์ เช่น ทำให้ข้าวไทยมีผลผลิตดีขึ้น มีความต้านทานต่อโรค ก็เท่ากับมีประโยชน์ต่อภาคการเกษตร สำหรับภาคธุรกิจเรามีอุตสาหกรรมจำนวนมาก แต่ละโรงงานต้องการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ของตนเอง ฉะนั้นหากมีการทำงานเชื่อมโยงกัน ไม่เฉพาะงบประมาณจากภาครัฐเท่านั้น งบประมาณจากภาคธุรกิจจะหลั่งไหลมา ภาคเอกชนในหลายประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนงานวิจัยโดยการใส่เงินเข้าไป ไม่ได้ขอจากภาครัฐอย่างเดียว หากนักวิจัยสามารถตอบโจทย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้พลังงาน ยืดระยะเวลาของอาหาร นอกจากนี้ต้องทำให้นักวิจัยเข้าใจว่า การวิจัยต้องเข้าใจสภาพของความจริง ใช้ประโยชน์ได้ เชื่อมโยงกับภาคธุรกิจ และต่อยอดสิ่งที่เคยทำไปแล้ว คนจะเห็นคุณค่างานวิจัย และงบประมาณการวิจัยก็จะตามมา
- ครูสอนภาษาอังกฤษ นอกเหนือจากการให้ครูอาสาสมัครมาสอนภาษาอังกฤษในไทย ศธ.จะทำข้อตกลงกับบริติช เคานซิล เกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งแน่นอนว่าวิธีการใช้ภาษาเป็นแบบอย่างจากเสียงครูที่อยู่ในแท็บเล็ต เด็กสามารถจะเรียนได้ที่บ้าน ได้ฝึกการออกเสียงอย่างถูกต้อง
- แท็บเล็ต ในเรื่องของซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ก็ต้องพัฒนามากขึ้น เพราะปัจจุบัน ศธ.ได้แจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียน ป.๑ ในปีการศึกษา ๒๕๕๕ และจะแจกนักเรียน ม.๑ ในปีการศึกษา ๒๕๕๖ ขณะนี้ ศธ.กำลังพัฒนาเนื้อหาสาระ และแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ที่เรียนรู้ได้ง่าย พยายามที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศ ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ เพื่อให้เด็กสามารถดาวน์โหลดหรือใช้งานได้ โดยจะมีการจ่ายค่าตอบแทนตามจำนวนผู้เข้าใช้ รวมทั้งระบบ Platform ที่สามารถควบคุมการใช้แท็บเล็ตของนักเรียนทั้งห้อง และสามารถเช็คการใช้แท็บเล็ตของนักเรียนได้ด้วย
- ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่พิเศษที่ ศธ.จะต้องดูแลให้ดีที่สุด นโยบายรัฐบาลต้องการให้การศึกษาเป็นตัวนำในการนำสันติสุขสู่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
- โรงเรียนขนาดเล็ก ในโรงเรียนเล็กๆ ต้องดูว่าคุณภาพเป็นอย่างไร หากสามารถขนส่งเด็กจากโรงเรียนเล็กๆ เหล่านั้นไปโรงเรียนที่มีคุณภาพ และประชาชนในพื้นที่ไม่ติดใจว่าจะต้องมีโรงเรียนเล็กที่ดีมีคุณภาพ เพียงขอให้ลูกหลานได้ไปเรียนอย่างสะดวกในโรงเรียนที่มีคุณภาพ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ ศธ.จะจัดรถรับส่งเด็ก ในแง่ของประสิทธิภาพ รัฐบาลใช้เงินน้อยลงในการจัดการศึกษา เด็กก็ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพในโรงเรียนขนาดใหญ่กว่า ครูช่วยสอนได้ดีขึ้น แต่ถ้าในบางพื้นที่อยากจะให้คงโรงเรียนขนาดเล็กไว้ก็ไม่เป็นไร จะทำเฉพาะโรงเรียนที่สมัครใจ
- การสอบ National Test : NT ผลการสอบ NT พบว่ามีหลายวิชาที่ผลคะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ ส่วนหนึ่งจะต้องแก้ด้วยการปรับปรุงหลักสูตร แต่อีกส่วนคือ เด็กไม่ตั้งใจ ไม่เห็นความสำคัญ และไม่เห็นประโยชน์จากการสอบ แต่หากทำให้การทดสอบมีผลกระทบและเกิดประโยชน์กับเด็ก เด็กก็จะตั้งใจมากขึ้น และอีกส่วนคือ ตั้งใจทำแล้ว แต่คะแนนยังไม่สูงขึ้น
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า การศึกษาจะต้องใช้เวลาเพื่อจะรอให้ถึงจุดที่มั่นใจที่สุด เช่น การปรับปรุงหลักสูตรอย่างน้อยใช้เวลาเป็นปี แต่หากไม่เริ่มทำ ไม่มีความเคลื่อนไหว ได้ผลช้าดีกว่าไม่ทำ ในอดีตที่ผ่านมามีคนบอกว่าไม่อยากทำเรื่องการศึกษา เพราะทำแล้วเห็นผลช้า รัฐบาลแต่ละสมัยๆ ละ ๔ ปี แต่การศึกษาเวลาทำแล้วบางครั้ง ๔ ปียังไม่เห็นผลชัดเจน ไม่เหมือนการสร้างอาคารเพียง ๒ ปีก็เห็นผลที่มา http://www.moe.go.th/websm/2012/nov/292.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น